ข้อเสียจากความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด

พุทธศาสนา คือ คำสั่งสอนของท่านผู้รู้ หรือผู้ที่มีสติปัญญาสูงสุด แต่ว่าในปัจจุบันหลักคำสอนของพุทธศาสนาได้ถูกครอบงำจากคำสอนของศาสนาพราหมณ์ จนทำให้หลักคำสอนที่แท้จริงของพุทธศาสนาผิดเพี้ยนไป และไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้นับถืออย่างแท้จริง โดยความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ที่สำคัญ ที่เข้ามาครอบงำพุทธศาสนาก็คือ ความเชื่อเรื่องจิตหรือวิญญาณเวียนว่ายตายเกิดเพื่อรับผลกรรมในชาติต่อๆไป ซึ่งความเชื่อเรื่องว่ามีจิตหรือวิญญาณเวียนว่ายตายเกิดเพื่อรับผลกรรม ตามที่เราเชื่อกันอยู่นี้จะมีผลเสียมากมาย อันได้แก่

๑. เห็นแก่ตัว คือเมื่อเชื่อว่าตายแล้วยังจะไปเกิดใหม่ได้อีก และถ้าทำบุญไว้ในชาตินี้ก็จะได้รับผลบุญนั้นอีกอย่างมากมายในชาติหน้า จึงทำให้ผู้ที่มีความเชื่อเช่นนี้เกิดความโลภมากขึ้น โดยจะพยายามกอบโกยทรัพย์สมบัติเอาไว้ในชาตินี้มากๆ แม้จะในทางที่ผิดก็ตาม แล้วก็เอาไปทำบุญเพื่อหวังไปรับเอาในชาติหน้า เหมือนฝากธนาคารเอาไว้เพื่อไปรับเอาในวันต่อไป แต่เมื่อโลภแล้วถูกขัดขวางหรือไม่ได้ตามที่โลภ ก็จะโกรธคนที่มาขัดขวาง แล้วก็ทำให้เกิดการทะเลาะกันหรือทำร้ายกันขึ้นมาอีกอย่างเช่นที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน

๒. ใจดำ คือทำให้ไม่คิดจะช่วยเหลือคนที่กำลังประสบความทุกข์ความเดือดร้อน เพราะเชื่อว่านั่นเป็นเพราะเวรกกรมที่เขาทำไว้จากชาติปางก่อน หรือถึงช่วยไปเขาก็ยังต้องไปรับผลกรรมของเขานั้นอีกในอนาคตอยู่ดี ส่วนคนที่ไปช่วยก็ไม่ได้ช่วยเพราะความเมตตา แต่ช่วยเพราะต้องการผลประโยชน์ตอบแทน คือ หวังให้มีคนนับถือยกย่อง หรือหวังผลทางวัตถุในภายหลัง นี่เองที่ทำให้คนที่เชื่อเช่นนี้จะปล่อยให้คนยากคนจนถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างหน้าตาเฉย เพราะเชื่อว่านั่นเป็นเวรกรรมของเขาเอง หรือการที่เรากินเลือดกินเนื้อของสัตว์อื่นอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่ได้คิดสงสารสัตว์ที่ต้องตายอย่างทรมานเพื่อมาเป็นอาหารของเรา เพราะเชื่อว่าเป็นเวรกรรมของสัตว์ที่ต้องรับผลเช่นนั้น นี่เองที่ความเชื่อเรื่องเวรกรรมจากชาติปางก่อนนี้จะทำให้คนที่เชื่อเป็นคนใจดำหรือขาดความเมตตาไปโดยไม่รู้ตัว

๓. ไม่พัฒนา คือเมื่อเชื่อว่า ชีวิตถูกเรื่องเวรรกรมจากชาติปางก่อนกำหนดเอาไว้แล้วก็จะฝืนไม่ได้ ต้องเป็นไปตามเวรกรรมเสมอ ดังนั้นจึงทำให้คนที่เชื่อนี้จะไม่พัฒนา เพราะเชื่อว่าถึงพัฒนาไปถ้ายังไม่หมดเวรกรรมก็จะไม่มีทางเจริญ แต่ถึงจะอยู่เฉยๆ ถ้าหมดเวรกรรมหรือมีโชควาสนาก็จะมีความเจริญขึ้นมาได้เอง นี่เองจึงทำให้คนที่เชื่อเรื่องเวรกรรมจากชาติปางก่อนจะไม่พัฒนา และล้าหลัง จนส่งผลให้ประเทศชาติเราล้าหลังอยู่ทุกวันนี้

๔. ปัญญาน้อย คือทำให้ผู้ที่เชื่อเรื่องเวรกรรมว่าเป็นสิ่งกำหนดชะตาชีวิตนี้ จะจมอยู่ในความเชื่อที่ไร้เหตุผล และไม่รู้จักใช้ความคิด เพราะเชื่อว่าเราทุกคนถูกกำหนดมาแล้วตายตัวว่าต้องเป็นเช่นนี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถึงจะคิดไปก็ไม่มีทางเฉลียวฉลาดขึ้นได้ จึงทำให้ผู้ที่เชื่อเช่นนี้จะถูกมองจากคนที่มีปัญญาว่าเป็นคนไม่รู้จักคิด และเมื่อคิดไม่เป็น ก็จะทำให้เป็นคนที่ไม่ใช้เหตุผลในการดำเนินชีวิตและแก้ปัญหา จึงทำให้ชีวิตต้องประสบกับปัญหาและความทุกข์ความเดือดร้อนอยู่ร่ำไป อีกทั้งสติปัญญาก็จะไม่พัฒนา แล้วก็จะทำให้ตกเป็นทาสของประเทศชาติอื่นที่เขาฉลาดกว่า ถ้ายังไม่เปลี่ยนความเชื่อนี้ให้ดีขึ้น

๕. เดือดร้อนเป็นทุกข์ คือเมื่อมีความเห็นแก่ตัว ก็จะเอารัดเอาเปรียบหรือเบียดเบียนผู้อื่น แล้วก็จะถูกผู้อื่นเกลียดชังและเบียดเบียนตอบ หรือเมื่อใจดำไม่ช่วยเหลือคนอื่นบ้าง ก็จะทำให้ถูกเกลียดชังจากสังคม และเมื่อถึงคราวที่ตนเองต้องเดือดร้อนบ้าง ก็จะไม่มีใครอยากจะมาช่วยเหลือ หรือเมื่อโง่เขลา ก็จะทำให้ชีวิตต้องประสบกับความทุกข์และความเดือดร้อนอยู่ร่ำไป ไม่มีทางที่จะพ้นจากความทุกข์และความเดือดร้อนได้อย่างแท้จริง เพราะคนโง่มักจะทำแต่สิ่งที่จะทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนอยู่เสมอ เช่น ติดอบายมุข ติดสิ่งเสพติด ฟุ่มเฟือย เกียจคร้าน เป็นต้น

พุทธศาสนาที่แท้จริงจะไม่สอนเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดเพื่อรับผลกรรม เพราะไม่มีทั้งเหตุผลและหลักฐานมายืนยัน แต่จะสอนเรื่องว่าจะดำเนินชีวิตในปัจจุบันอย่างไร จึงจะไม่เกิดความทุกข์ความเดือดร้อนทั้งแก่ตัวเองและสังคม ทั้งในปัจจุบันและอนาคต และจะสอนให้ใช้เหตุผลมาศึกษาชีวิตที่มีอยู่จริงตามหลักวิทยาศาสตร์ จนเกิดความเข้าใจตัวเองและชีวิต แล้วก็จะทำให้เป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว เมื่อไม่เห็นแก่ตัวก็จะเห็นแก่คนอื่นมากกว่า และจะพยายามช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลใดๆตอบแทน แต่ถึงแม้จะทำไม่ได้ก็ไม่โกรธหรือเสียใจ ซึ่งการเข้าใจชีวิตก็จะทำให้มีปัญญาและจะมีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ อันจะส่งผลให้เป็นคนที่มีแต่ความเจริญก้าวหน้า ทั้งในเรื่องการดำเนินชีวิต และเรื่องการปฏิบัติเพี่อดับทุกข์ของจิตใจ อันจะส่งผลให้ประเทศชาติเจริญ จึงขอฝากให้ทุกคนสนใจที่จะศึกษาหลักพุทธศาสนาให้เกิดความเข้าใจกันอย่างถูกต้องกันต่อไป.

เตชปญฺโญ ภิกขุ. ๓๐ พ.ค. ๒๕๔๘
อาศรมพุทธบุตร เกาะสีชัง ชลบุรี
(ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.whatami.net)