เด็กไทยไวไฟเพราะอะไร?

ระยะนี้มีข่าวการวิจัยพบว่าเด็กไทยมีเพศสัมพันธ์กันตั้งแต่อายุน้อยมาก ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? สังคมชาวพุทธทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ความเป็นกุลสตรีไทยหายไปไหนหมด? ซึ่งเราจะมาศึกษากันดูว่าทำไมสังคมเราจึงฟอนแฟะขนาดนี้?

เมื่อพิจารณาจากสภาพสังคมปัจจุบันก็พอจะบอกได้ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์นั้นก็ต้องเกิดมาจากความใคร่หรือความกำหนัดทางเพศ โดยเมื่อถึงวัยที่ร่างกายเจริญเต็มที่ ธรรมชาติก็จะกระตุ้นให้ชายหนุ่มหญิงสาวเกิดความพึงพอใจซึ่งกันและกันอันจะนำไปสู่การมีความรักและความเชื่อใจจนทำให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ขึ้นมา ซึ่งนี่เป็นกลไกลของธรรมชาติที่ผลักดันมนุษย์ให้มีการสืบพันธ์เพื่อที่มนุษย์จะได้ไม่สูญพันธ์ไปจากโลก

แต่เมื่อยังไม่ถึงวัยที่จะมีคู่ก็มีเพศสัมพันธ์กันแล้วก็แสดงว่าเด็กจะต้องเกิดความใคร่ทางเพศตั้งแต่ยังเป็นเด็กที่ไม่สมควรจะเกิดความใคร่ ซึ่งการที่เด็กจะเกิดความใคร่ทางเพศขึ้นมาได้ก็จะต้องถูกกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศอยู่เสมอ โดยจากสภาพสังคมปัจจุบันเราก็จะเห็นได้ว่ามีการกระตุ้นให้เด็กเกิดอารมณ์ทางเพศอยู่ทั่วไป ทั้งจากสื่อต่างๆและจากการแต่งกายยั่วยวนของสตรีเพศในปัจจุบัน

วัฒนธรรมไทยนั้นจะสอนให้หญิงสาวรักนวลสงวนตัว ไม่แต่งกายยั่วยวนบุรุษ ไม่ให้ชายถูกเนื้อต้องตัว และไม่อยู่กับผู้ชายสองต่อสองในที่ลับ แต่ปัจจุบันวัฒนธรรมทางตะวันตกในเรื่องฟรีเซ็กส์หรือการมีอิสระในเรื่องทางเพศได้เข้ามาครอบงำเด็กวัยรุ่นไทยอย่างรวดเร็วโดยอาศัยสื่อต่างๆทั้งโทรทัศน์ ทั้งหนังสือพิมพ์ จนทำให้วัฒนธรรมไทยเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว และเหลืออยู่แต่วัฒนธรรมยั่วยวนทางเพศ หรือการมีอิสระทางเพศอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจนทำให้เด็กสาวไทยมีสถิติมีเพศสัมพันธ์กันตั้งแต่อายุยังน้อย

การมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นสิ่งที่ให้ความสุขที่เร่าร้อนรุนแรงอย่างยิ่ง จนทำให้มนุษย์ลุ่มหลงติดใจอย่างยิ่ง และละเลิกได้ยากเหมือนการติดสิ่งเสพติด ดังนั้นวัฒนธรรมการมีอิสระทางเพศจึงเป็นสิ่งที่ได้รับการต้อนรับอย่างง่ายดายในสังคมที่ให้อิสระอย่างมากในการดำเนินชีวิตและมีภูมิต้านทานต่ำเพราะไร้ปัญญาอย่างเช่นในสังคมไทยปัจจุบัน

สิ่งสำคัญที่ทำช่วยให้วัฒนธรรมอิสระทางเพศเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วก็คือสื่อโทรทัศน์ โดยเรารับเอาภาพยนตร์เข้ามาฉายโดยไม่กลั่นกรองว่ามันจะมาทำลายวัฒนธรรมที่ดีงามของเราหรือไม่ ซึ่งภาพยนตร์เหล่านั้นจะมีการแสดงการถูกเนื้อต้องตัวกัน, การแต่งกายยั่วยวนของสตรี, การมีคู่กันโดยพ่อแม่ผู้ปกครองไม่รู้, การกอดจูบกันแม้ในที่สาธารณะ, และการมีเพศสัมพันธ์กันอย่างอิสระ เป็นต้น ซึ่งนี่ยังเป็นเพียงภาพยนตร์ที่ถูกกฎหมาย ส่วนภาพยนตร์ที่ผิดกฎหมายหรือหนังอาร์ หนังเอ็กซ์ที่เป็นแผ่นซีดีที่แอบขายกันอย่างแพร่หลายทั่วประเทศก็จะยิ่งร้ายแรงกว่านั้น คือทำให้เด็กที่ดูหนังเหล่านี้จะเกิดอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรงและสะสมอยู่เสมอแล้วก็ทำให้อยากลองมีเพศสัมพันธ์ขึ้นมา เมื่อมีโอกาสอยู่กันสองต่อสองกับเพศตรงข้ามจึงหักห้ามจิตใจตัวเองไม่อยู่ จึงทำให้เกิดมีเพศสัมพันธ์ขึ้นมาในที่สุดแม้จะอายุยังน้อยก็ตาม

การแก้ปัญหาในเรื่องนี้นั้นจะต้องแก้กันในทุกๆด้าน ซึ่งด้านที่สำคัญก็คือสื่อทางโทรทัศน์ที่ต้องควบคุมให้อยู่ในกรอบที่ดีงามตามวัฒนธรรมไทย และด้านการรณรงค์ให้มีการแต่งกายที่มิดชิดของหญิงสาวสมัยนี้ เป็นต้น

จากการแต่งกายของหญิงสาวสมัยนี้เราก็จะพบว่ามีการพยายามจะอวดอวัยวะที่ควรปกปิด เช่นนุ่งประโปงสั้นเลยหัวเข่ามากและยังผ่าลึกอีก ส่วนเสื้อก็รัดรูปเพื่อให้มองเห็นนมเป็นรูปร่าง และคอกว้างเพื่อให้มองเห็นร่องนม อีกทั้งยังสั้นเพื่อให้มองเห็นเอวและสะดือ โดยแม้นิสิตนักศึกษาหญิงที่เป็นปัญญาชนบางคนก็ยังชอบแต่งกายกันเช่นนี้โดยไม่รู้สึกว่าเสียหาย ถ้าใครมาท้วงติงก็จะถูกย้อนกลับว่าคนที่ท้วงติงนั้นล้าสมัย, เผด็จการ, อยู่แต่ในกรอบ และเขาก็จะอ้างสิทธิเสรีภาพในการแต่งกายว่ามันผิดตรงไหน, เขาไม่ได้ทำร้ายหรือเบียดเบียนใคร, หรือคิดจะไปยั่วยวนใคร, เขาก็เป็นคนดี เรียนดีไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน?, ใครๆเขาก็แต่งกันอย่างนี้ทั้งนั้น เป็นต้น ซึ่งนี่ก็จะเป็นคำตอบตายตัวตามแบบฉบับของคนที่ไร้สมองที่เป็นมาทุกยุคทุกสมัยเพราะไม่รู้จะเอาคำตอบอะไรที่ดีไปกว่านี้มาตอบ

ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่มีใครอยากจะมาสนใจคัดค้านหรือแม้จะท้วงติงเรื่องนี้เพราะกลัวถูกว่าเป็นคนล้าสมัย ไม่ทันโลก หรือโบราณเต่าคร่ำครึ และส่วนมากก็อยากจะดูจึงทำให้เกิดการยอมรับไปโดยปริยาย ซึ่งไม่นานก็คงได้เห็นผู้หญิงไทยเราแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่โปร่งใสมองเห็นสัดส่วนภายในทั้งหมดเป็นแน่ ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น เราก็คงไม่มีมนุษย์หลงเหลืออยู่ในสังคมไทยของเราอีกต่อไปแล้ว จะคงมีก็แต่สัตว์ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “คน” ที่เหมือนกับสัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย ที่ไม่มีความละอายกันในเรื่องทางเพศ ที่ไม่ต้องสวมใส่เสื้อผ้า และพอใจจะเสพสมกันตรงไหนก็จะทำกันทันที ซึ่งมันก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นไปได้มากเพราะมันเริ่มจะเป็นในระดับต้นแล้วในปัจจุบัน

จริงอยู่ที่หญิงสาวบางคนที่แต่งตัวเช่นนี้เธออาจจะไม่คิดไปยั่วยวนใคร บางทีเธออาจจะแต่งไปตามแฟชั่นเท่านั้น ถึงแม้บางทีเธอเองก็ไม่ได้อยากแต่งเลยก็ตาม ซึ่งจะอย่างไรก็ตามเธออาจจะไม่รู้ว่าจิตใจของผู้ชายที่สนใจมองเธอนั้นเขาจะมีความรู้สึกเช่นไร เธอเห็นว่าเมื่อแต่งกายเช่นนี้แล้วมีแต่คนสนใจมองเธอและช่วยเหลือเอาอกเอาใจเธอ จะต่างกับเวลาที่เธอแต่งกายปกปิดมิดชิดที่แทบจะไม่มีใครมองหรือสนใจเธอเลย ดังนั้นจึงทำให้เธอชอบที่จะแต่งกายเปิดเผยอวัยวะที่ควรละอายเช่นนี้โดยขาดการไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน

ตามธรรมชาติของผู้ชายทั่วๆไปนั้นเมื่อพบเห็นสตรีเพศก็เป็นของธรรมดาที่จะสนใจ ถ้าสวยงามก็จะยิ่งสนใจ แต่ถ้ายิ่งได้เห็นสรีระหรืออวัยวะของสงวนของสตรีก็จะยิ่งสนใจมากขึ้น แต่ความสนใจจะต่างกัน คือถ้าไม่เห็นอวัยวะของสงวนก็จะสนใจแต่เพียงแต่ความงามและอยากได้มาเป็นคู่ครองเท่านั้น ซึ่งถ้าเพียงเท่านี้ก็จะยังไม่เสียหายอะไร แต่ถ้าได้มองเห็นอวัยวะของสงวนของสตรีกลับจะทำให้ผู้ชายเกิดความต้องการทางเพศขึ้นมาทันที ถ้าไม่มีโอกาสก็จะสั่งสมเอาไว้และไปแสดงออกในทางอื่น เช่น ช่วยตัวเอง หรือไปเที่ยวโสเภณี หรือไปล่วงละเมิดทางเพศแก่เด็กหรือสตรีอื่นต่อไปถ้ามีโอกาส เป็นต้น ซึ่งก็แน่นอนว่าจะเกิดผลร้ายตามมาแก่ชายนั้นและหญิงสาวทั่วไป เช่นติดโรคเอดส์ หรือถูกจับ ถูกสังคมรังเกียจ หรือถูกลงโทษได้ เป็นต้น แต่ถ้ามีโอกาส เช่นเห็นสตรีแต่งกายยั่วยวนอยู่ในสถานที่เปลี่ยวและทนต่อความต้องการทางเพศของตนไม่ไหวก็อาจจะฉุดเอาสตรีนั้นไปข่มขืนกระทำชำเราได้ และเมื่อกลัวความผิดก็อาจจะฆ่าสตรีนั้นก็ได้ เป็นต้น

จึงอยากจะขอเตือนผู้หญิง โดยเฉพาะหญิงสาววัยรุ่นสมัยใหม่ว่าการแต่งกายของเธอนั้นมันสามารถที่จะทำร้ายได้ทั้งตัวเธอเองและเพื่อนหญิงของเธอได้ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม ไม่อย่างรุนแรงก็เล็กน้อย ซึ่งถึงแม้เธอจะมีความสุขจากการแต่งกายที่ยั่วยวนของเธอ แต่มันจะมีผลเลวร้ายกลับมาสู่สังคมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งข่าวเรื่องการฉุดคร่าผู้หญิงไปข่มขืน หรือการหลอกลวงหญิงสาววัยรุ่นไปข่มขืนที่มีให้เห็นตามสื่อต่างๆอยู่เกือบจะทุกวี่วัน และแม้การระบาดของโรคเอดส์ก็มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการแต่งกายยั่วยวนทางเพศของพวกเธอด้วย คือทุกสิ่งที่จะเกิดมันจะต้องมีเหตุมาช่วยให้เกิด ไม่ใช่จู่ๆมันจะเกิดขึ้นมาได้เอง และเมื่อเธอรู้อย่างนี้แล้วเธอยังจะมาร่วมสร้างเหตุเพื่อทำร้ายเพื่อนหญิงของเธอและแม้ทำร้ายตัวเธอเองด้วยการแต่งกายยั่วยวนใจชายของเธออยู่อีกหรือ?

เตชปัญโญ ภิกขุ

อาศรมพุทธบุตร เกาะสีชัง ชลบุรี

(ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.whatami.net)


*********************