ไม่หล่อไม่สวยก็มีสุขได้ ในสังคมปัจจุบันวัยรุ่นจะมีค่านิยมในความหล่อความสวยกันมาก หนุ่มที่มีความหล่อและมีรูปร่างดี กับสาวที่มีความสวยและหุ่นดีจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในสังคมมาก ซึ่งก็จะทำให้หนุ่มสาวที่หล่อและสวยเหล่านี้มีความสุขจากความหล่อและสวยของเขา และทำให้ใครๆก็อยากจะมีความหล่อและสวยด้วยกันทั้งนั้น เมื่อสังคมมีค่านิยมในความหล่อและสวยกันเช่นนี้มากขึ้นก็ย่อมที่จะส่งผลในทางตรงกันข้ามขึ้นมาคือทำให้คนที่ไม่หล่อไม่สวยไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คน ยิ่งคนที่ขี้เหร่ก็จะกลายเป็นที่รังเกียจของสังคมไปโดยปริยาย และก็ส่งผลในทางจิตใจของคนที่ไม่หล่อไม่สวยหรือขี้เหร่ให้เกิดความทุกข์ใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ คนที่ไม่หล่อไม่สวยทั้งหลายจะรู้สึกอาภัพและขาดความมั่นใจเมื่อต้องเข้าสู่สังคม ซึ่งในภาพยนตร์และทีวีรวมทั้งหนังสือนิตยาสารต่างๆก็ล้วนสรรหาคนหล่อคนสวยมาแสดงหรือเผยแพร่จึงจะขายได้ ถ้าเอาคนที่ไม่สวยไม่หล่อมาแสดงหรือเผยแพร่ก็จะขายไม่ได้ เพราะไม่มีคนซื้อ ซึ่งแม้ร้านค้าต่างๆถ้ามีคนหล่อคนสวยมาขายก็จะมีคนมาอุดหนุนมากมายเช่นกัน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ก็เพราะผู้คนมีค่านิยมในความหล่อความสวย เมื่อได้พบเห็นหรือได้ยินเสียงคนหล่อคนสวยก็จะเกิดความรู้สึกเป็นสุข ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาของคนที่ไร้สติปัญญาและยังติดอยู่ในเรื่องกามารมณ์ คนหล่อและสวยเท่านั้นหรือที่จะมีความสุข? คนที่ไม่หล่อไม่สวยจะไม่มีความสุขบ้างเลยหรือ? แน่นอนถ้าคนที่ไม่หล่อไม่สวยจะยังโง่เขลาและยังติดอยู่ในเรื่องกามารมณ์ก็ย่อมที่จะไม่มีความสุข หรือถ้ายิ่งไม่พอใจในความไม่หล่อไม่สวยของตนเองมากๆก็จะยิ่งทำให้ทุกข์ใจขึ้นมาได้ นี่เองที่ทำให้สินค้าที่จะช่วยให้เกิดความหล่อและสวยทั้งหลายแม้จะเป็นสินค้าหลอกลวงก็ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และมีการโฆษณากันเต็มไปหมดไม่ว่าจะทางวิทยุโทรทัศน์หรือหนังสือต่างๆ ซึ่งก็ทำให้คนผลิตและขายร่ำรวยไปตามๆกัน ซึ่งคนที่ไม่หล่อไม่สวยบางคนก็สมหวัง แต่ส่วนมากจะผิดหวังเพราะทำอย่างไรตนเองก็ไม่สามารถหล่อหรือสวยได้แม้จะใช้เครื่องสำอางหรือเครื่องประดับมาตกแต่งอย่างมากมายแล้วก็ตาม ซึ่งก็ทำให้คนโง่เหล่านี้ต้องประเป๋าแห้งไปตามๆกัน นี่ยังไม่รวมถึงการที่คนโง่ไปอิจฉาคนที่เขาหล่อกว่าหรือสวยกว่าด้วย เพราะทำให้ตนเองต้องร้อนใจทรมานใจไปฟรีๆเพราะไปอิจฉาเขานั่นเอง ส่วนคนที่ฉลาดและไม่หลงติดอยู่ในเรื่องกามารมณ์หรือในเรื่องความหล่อความสวยนี้เขาย่อมที่จะมีความสุขได้แม้เขาจะไม่หล่อหรือไม่สวยก็ตาม ซึ่งความสุขที่เขามีนั้นก็มาจากความภาคภูมิใจในคุณสมบัติที่ดีงามที่มีอยู่ในตัวเขานั่นเอง อะไรคือคุณสมบัติที่ดีงามในตัวของเรา? แน่นอนว่าคนเราทุกคนเกิดมานั้นจะยังไม่มีอะไรติดตัวมา แต่เราสามารถที่จะสร้างขึ้นมาได้ในภายหลัง ซึ่งอะไรก็ได้ที่ไม่ผิดกฎหมายและไม่ผิดศีลธรรม รวมทั้งเกิดประโยชน์ไม่ว่าจะแก่ตนเองหรือแก่สังคมก็จัดว่าเป็นสิ่งที่ดีงามทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าจะมากหรือน้อยเท่านั้น สังคมจะยอมรับคนที่มีเงิน ดังนั้นการมีเงินก็จะช่วยให้คนที่มีเงินมีความภาคภูมิใจในการมีเงินของตนเองได้ และเงินก็ยังสามารถใช้ซื้อหาความสุขทางตา หู จมูก ลิ้น และกายได้อีกด้วย แต่วิธีนี้ก็อาจมีปัญหาเพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะหาเงินได้ง่ายๆ แม้คนที่มีเงินก็อาจจะหาเงินมาในทางที่ไม่ถูกต้องก็ได้ ดังนั้นวิธีนี้จึงไม่ดีเป็นแน่ถ้าจะส่งเสริมให้วัยรุ่นมานิยมคนมีเงินโดยไม่สนใจว่าคนมีเงินนั้นจะเป็นคนดีหรือไม่ อีกทั้งความสุขจากการใช้เงินมาซื้อหานั้นก็ยังจะก่อปัญหามากมายตามมามากมายอีกด้วย การเป็นนักกีฬา เป็นนักตนตรี เป็นนักร้อง หรือเป็นนักพูดเป็นต้นก็ทำให้เรามีความภาคภูมิใจในสิ่งที่เรามีได้ แต่ก็อาจจะดีงามน้อยหน่อยถ้าทำไปเพื่อตนเองและต้องให้สังคมยอมรับ ถ้าสังคมไม่ยอมรับก็อาจทำให้คนที่ทำดีเช่นนี้ไม่เป็นสุขได้เหมือนกัน คือมันไม่อิสระ มันยังต้องขึ้นอยู่กับสังคมอยู่อีก ยิ่งถ้าแข่งกีฬาแล้วแพ้ หรือเล่นดนตรีไม่เพราะ หรือร้องเพลงไม่เพราะก็ย่อมไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งก็จะทำให้ทุกข์ใจขึ้นมาอีก ดังนั้นความดีงามชนิดนี้จึงไม่ค่อยจะดีนัก แต่สังคมก็พยายามจะสนับสนุนมาก เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรที่ดีไปกว่านี้ คือดีกว่าปล่อยให้ไปติดยาเสพติด หรือไปติดเกมส์ หรือไปแข่งรถซิ่งกันตามถนนหลวงเป็นต้น ซึ่งก็จะสร้างปัญหาให้แก่สังคมขึ้นมาอีก คุณความดีที่ดีไปกว่านี้ที่ควรส่งเสริมให้วัยรุ่นมีก็คือความรู้ ซึ่งก็ได้แก่ความรู้จากการเรียนการศึกษาของนักเรียนนักศึกษานั่นเอง คือถ้าใครเป็นคนที่มีความรู้จริง หรือเรียนเก่ง หรือมีความรู้ความสามารถในเรื่องการเรียน หรือในวิชาชีพต่างๆเขาก็จะมีความภาคภูมิใจสิ่งที่เขามีอย่างยิ่ง ซึ่งความภาคภูมิใจนี้เองที่จะทำให้เขามีความสุขใจ หรืออิ่มเอมใจอยู่เสมอโดยไม่สนใจเรื่องว่าเขาจะหล่อหรือไม่หล่อ หรือจะสวยหรือไม่สวยเลย แต่จะตรงข้ามกับคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถที่จะพยายามสร้างความมั่นใจให้กับตนเองด้วยการพยายามแต่งหน้า แต่งตัว หรือประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงเพื่อปกปิดปมด้อยเรื่องตนเองด้อยความรู้ความสามารถเอาไว้ และเบี่ยงเบนให้คนมาสนใจที่ใบหน้าหรือที่รูปร่างหรือที่เครื่องแต่งกาย หรือที่เฟอร์นิเจอร์ราคาแพงที่ตนมีแทน การมีความรู้ความสามารถนี้มันยาก มันต้องใช้ทั้งความอดทนและความพากเพียรค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงมีน้อยคนนักที่จะเป็นคนมีความรู้ความสามารถได้จริง คนที่มีความรู้ความสามารถจริงจึงเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูงและมีความภาคภูมิใจในสิ่งที่ตนเองมีอย่างยิ่งด้วย แต่การมีความรู้ความสามารถนี้ถ้ายังทำไปเพื่อหวังให้มีคนชมก็ยังไม่ใช่คุณความดีที่สูงส่งแท้จริง เพราะยังมีความหวังว่าจะมีคนมายกย่องเชิดชูหรือมาให้รางวัล ถ้าไม่มีใครมายกย่องเชิดชูหรือมาให้รางวัลก็จะทำให้ไม่มีความสุขหรืออาจจะกลายเป็นมีความทุกข์ไปเสียก็ได้ ส่วนการมีความรู้ความสามารถแต่ไม่ได้หวังว่าจะมีใครมายกย่องเชิดชูหรือมาให้รางวัลนั้นจะเป็นความดีที่สูงส่งอย่างแท้จริง ซึ่งมันจะเป็นความภาคภูมิใจและทำให้มีความมั่นใจอย่างยิ่งแก่ผู้ที่มีมากเลยทีเดียว เหมือนกับการมีทรัพย์สินที่มีค่ามากมายที่ใช้ไม่รู้จักหมดสิ้น หรือทำให้เขามีความสุขใจ อิ่มเอมใจอยู่เสมอ ไม่ว่ารูปร่างหน้าตาของเขาจะเป็นอย่างไร หรือจะยากดีมีจนอย่างไรก็ตาม รวมทั้งจะมีใครมารู้หรือไม่ก็ตาม ซึ่งเรียกว่าเขาจะมีความอิ่มเอมใจอยู่เสมอ ซึ่งจะต่างกับคนที่มีความรู้ความสามารถแต่อยากให้มีคนมาชมที่จะมีความอิ่มเอมใจก็เฉพาะเวลาที่มีคนมาชมเท่านั้น ส่วนเวลาที่ไม่มีคนมาชมเขาก็จะมีแต่ความหิวกระหาย คือยากจะให้มีคนมารู้ และมาชมเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็จะทำให้เขามีความสุขน้อยเพราะความหิวนั้นมันทำให้เขาเป็นทุกข์อยู่อย่างลึกๆและมันจะมากัดกินความสุขทำให้ลดน้อยลงได้ ส่วนคนที่ไม่มีความรู้หรือไม่มีความสามารถอะไรเลยก็ยังสามารถมีความสุขได้จากการเป็นคนดี เช่นเป็นคนขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ กตัญญู มีศีล ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เสียสละเพื่อส่วนรวม ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย รักษาธรรมชาติ มีระเบียบวินัย เป็นต้น ซึ่งนี่คือการมีคุณธรรมประจำใจอย่างแท้จริงโดยไม่ได้หวังว่าจะมีใครมารู้หรือมาชม ซึ่งใครๆก็สามารถมีคุณธรรมเหล่านี้ได้ ด้วยการตั้งใจปฏิบัติด้วยตนเอง ซึ่งผู้ที่ปฏิบัติได้จริงก็จะมีความภาคภูมิใจในสิ่งที่เขามี และทำให้เกิดความสุขใจอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว ส่วนการมีความดีขั้นสูงสุดก็คือการมีสมาธิและปัญญาที่สามารถใช้ดับทุกข์ได้ ซึ่งก็ต้องมีการฝึกฝนสมาธิมาอย่างเพียงพอ และมีการอบรมปัญญามาพอสมควรจึงจะมีสมาธิและปัญญามาใช้ดับทุกข์ได้และทำให้มีความภาคภูมิใจอย่างสูงสุดได้ อันจะทำให้มีความสุขอย่างยิ่งได้โดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับอะไรเลย คนที่มีปัญญาย่อมที่จะมองเห็นว่าความหล่อความสวยนั้นมันจะทำให้มีความสุขได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะมันต้องอาศัยผู้คนมาชมจึงจะมีความสุข ถ้าไม่มีใครมาชมก็ย่อมที่จะมีแต่ความหิวอยากให้มีคนมาชม ซึ่งมันก็คือความทุกข์ที่ลึกซึ้งอย่างหนึ่งที่มีมากกว่าความสุขที่เกิดจากการมีคนชมมากมายนัก และยังไม่เท่านั้น ความหล่อความสวยนั้นก็ไม่ได้ยั่งยืนอะไรเลย ไม่ช้าไม่นานมันก็จะเสื่อมหายไป แล้วทีนี้คนที่ลุ่มหลงความหล่อความสวยในตัวเองก็ย่อมที่จะมีแต่ความเศร้าตรมเพราะตนเองไม่หล่อไม่สวยเสียแล้ว อีกทั้งการจะรักษาความหล่อความสวยก็ทำให้ต้องสิ้นเปลืองเงินเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังมีส่วนทำลายทรัพยากรของโลกให้เสียหายไปอย่างมากอีกด้วย และคนที่หล่อหรือสวยก็มักมีคู่ครองไม่ดี เพราะจะได้ก็แต่คนที่เจ้าชู้ที่ชอบความหล่อความสวยเท่านั้น ส่วนคนที่มีปัญญาเขาย่อมสนใจคนที่มีปัญญาเหมือนกันมากกว่าจะมาสนใจเรื่องความหล่อความสวย จึงอยากให้ทุกคนหันมาสนใจเรื่องความรู้ความสามารถ และเรื่องคุณธรรมความดีงาม หรือเรื่องสมาธิปัญญามากกว่าจะไปสนใจเรื่องความหล่อความสวยหรือแม้ความร่ำรวยก็ตาม เพราะความรู้และความดีหรือสมาธิปัญญานั้นจะช่วยให้เรามีความภาคภูมิใจ หรืออิ่มเอมใจได้อย่างไม่รู้จักจบสิ้น และยังจะช่วยให้ชีวิตของเราเจริญรุ่งเรืองได้อีกด้วย เรียกว่ามีแต่ดีกับดีเท่านั้น ซึ่งจะตรงข้ามกับความหล่อความสวยหรือความร่ำรวย ที่แม้จะทำให้มีความภาคภูมิใจและความสุขได้บ้างก็เพียงเล็กน้อย และชั่วคราว แต่กลับมีแต่ความหิวโหยและปัญหาอยู่เสมอ รวมทั้งยังจะหาความเจริญรุ่งเรืองได้ยากอีกด้วย เรียกว่ามีดีเพียงเล็กน้อย แต่ว่ามีเสียมากกว่ามากมายนัก. เตชปัญโญ ภิกขุ อาศรมพุทธบุตร เกาะสีชัง ชลบุรี ********************* |