คอมพิวเตอร์กับเด็ก

ขณะนี้รัฐบาลมีโครงการซื้อคอมพิวเตอร์แบบประเป๋าหิ้วขนาดจอภาพ ๗ นิ้ว และใช้โปรแกรมลีนุกซ์เพื่อให้เด็กนักเรียนประถมทั่วประเทศใช้แทนหนังสือเรียนเพราะจะทำให้ประหยัดค่าหนังสือและทำให้เด็กมีพัฒนาเรื่องการใช้เทคโนโลยี่ รวมทั้งจะช่วยเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งราคาประมาณ ๔,๐๐๐ บาท และมีความคงทนต่อการตกพื้นด้วย

ในเรื่องการใช้เทคโนโลยี่ช่วยในการเรียนการสอนนั้นเป็นสิ่งดี  ซึ่งถ้ามองตามทฤษฎีแล้วนับว่าเป็นโครงการที่ดี เพราะจะทำให้เด็กมีความคุ้นเคยกับการใช้คอมพิวเตอร์ ทำให้ประหยัด ทำให้สามารถเข้าถึงขอมูลได้ทั่วโลก ซึ่งจะเป็นการพัฒนาด้านความรู้ได้เป็นอย่างดี  และยังจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการเรื่องภาษาอังกฤษอีกด้วย ซึ่งถ้าทำสำเร็จเด็กไทยเราก็จะเป็นเด็กที่มีคุณภาพมากขึ้น

แต่ทุกสิ่งนั้นมีทั้งด้านดีและไม่ดี ดังนั้นเราต้อมาพิจารณาว่าด้านไม่ดีนั้นมีอะไรบ้างเพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าสมควรอย่างไรที่จะให้เด็กได้ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการเรียน ซึ่งก่อนอื่นเราต้องคำนึกถึงสภาพของเด็กว่ามีความพร้อมอย่างไร?  ถ้าเป็นเด็กในเมืองที่สัมผัสเทคโนโลยี่มาจนชินชาแล้วก็คงไม่มีปัญหาเพราะจะรู้จักการใช้งานและการดูแลรักษามาแล้วเป็นอย่างดี แต่เด็กบ้านนอกที่ยังไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี่นั้นคงมีปัญหา เพราะอาจจะดูแลรักษาได้ไม่ดี เมื่อทำเสียก็ย่อมที่จะเกิดปัญหาตามมาอีก

อีกอย่างการพึ่งเทคโนโลยี่มากเกินไปก็อาจสร้างปัญหาเรื่องการพึ่งพาตนเอง  เพราะจะทำให้เด็กติดเทคโนโลยี่ เมื่อไม่มีเทคโนโลยี่ก็ทำอะไรไม่เป็น หรือถ้าไม่มีไฟฟ้าก็ทำอะไรไม่ได้  แล้วก็เพิ่มปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายตามมาอีก ถ้าเรายังผลิตเองไม่ได้และยังต้องซื้อพลังงายจากต่างประเทศอยู่อย่างปัจจุบันเราก็ต้องเสียเปรียบดุลการค้ามากขึ้นอีก

อีกอย่างเทคโนโลยี่เป็นของบอบบาง เด็กๆอาจะเอาใส่กระเป่าแล้วโยนกระเป๋าลงพื้นตามความเคยชินก็อาจทำให้คอมเสียหายได้ หรือเด็กอาจจะเอาคอมมาเล่นจนเสียหายแล้วจะสร้างปัญหาเรื่องการหาที่ซ่อมไม่ได้อีก หรือเด็กอาจจะแอบเอาเกมส์มาลงเพื่อเอาไว้เล่นซึ่งก็จะสร้างปัญหาเด็กติดเกมส์ขึ้นมาอีกก็ได้ ยิ่งถ้าให้เด็กต่ออินเตอร์เน็ตได้อิสระก็อาจสร้างปัญหาเรื่องการเข้าเวบที่ไม่เหมาะสมได้  แล้วทีนี้นอกจาจะไม่เกิดประโยชน์แล้วก็อาจทำให้เกิดโทษแทนก็ได้

อีกอย่างการเพ่งมองจอภาพขนาดเล็กก็อาจจะสร้างปัญหาทำให้สายตาเด็กเสียก็ได้ และการใช้จอภาพเปิดดูหนังสือจะสู้การเปิดดูจากหนังสือไม่ได้ ส่วนเรื่องการจะช่วยเรื่องให้เก่งภาษาอังกฤษนั้นคงยากเพราะถ้าเด็กไม่สนใจเรียนแล้วก็ยากที่จะเก่งได้ ยิ่งถ้าเด็กอ่านภาษาอังกฤษไม่ออกก็จะยิ่งทำให้เด็กไม่สนใจเรียนมากยิ่งขึ้น และอีกอย่างมันอาจจะเหมือนโทรศัพท์มือถือที่แทนที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารที่จำเป็น กลับเป็นว่านำมาใช้เพื่อคุยกันเล่นก็ได้

การพัฒนาการศึกษาให้กับเด็กมีหลายวิธี ซึ่งสมัยนี้จำเป็นที่จะต้องอาศัยเทคโนโลยี่มาช่วย แต่ถ้าพื้นฐานของเด็กไม่ดีก็ยากที่จะพัฒนาได้  ดังนั้นจึงควรที่จะมาพัฒนาเรื่องพื้นฐานของเด็กกันเสียก่อน โดยพัฒนาด้านศีลธรรมจริยธรรมของเด็กให้มาก และเน้นเรื่องการปฏิบัติให้มาก ไม่ใช่เน้นแต่ทฤษฎีอย่างที่เป็นกันอยู่ ที่สำคัญการสอนหลักของศาสนาที่แท้จริงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าศาสนาทุกศาสนาจะสอนหลักการที่แท้จริงของศาสนาตนเองแล้ว ก็จะมีผลต่อความประพฤติของเด็กเป็นอย่างมาก คือจะทำให้เด็กเป็นคนไม่เห็นแก่ตัวและจะรักผู้อื่น อันเป็นพื้นฐานด้านศีลธรรมและจริยธรรมของเด็ก

สรุปว่าโครงการใช้คอมแทนหนังสือเรียนนี้จะต้องพิจารณาให้ดีว่าจะเหมาะสมเพียงใด เพราะทฤษฎีนั้นถ้ายังไม่ได้ทดลองปฏิบัติก็จะยังเอาแน่ไม่ได้  จึงควรมีการทดลองใช้ในนักเรียนจากแห่งต่างๆทั้งในเมืองและตามชนบทเสียก่อนจึงนำมาใช้จริงทั่วประเทศ  เพื่อค้นหาปัญหาว่ามันจะมีอะไรบ้างเพื่อจะได้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรไม่อย่างนั้นก็อาจจะทำให้เสียงบประมาณเปล่าถ้าทำแล้วมีปัญหามากในภายหลัง.

 

          เตชปัญโญ ภิกขุ

อาศรมพุทธบุตร เกาะสีชัง ชลบุรี


(ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.whatami.net)


*********************