ความติดใจคือปัญหาของมนุษย์

มนุษย์มีปัญหาสำคัญที่สุดก็คือความติดใจหรือความยึดติด ซึ่งเป็นอาการติดใจในสิ่งที่ให้ความสุขทั้งหลาย และเมื่อติดใจก็จะเกิดความอยากจะได้ความสุขนั้นอีก จึงทำให้ต้องแสวงหาความสุขนั้นมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อยิ่งได้ก็จะยิ่งติดใจและยิ่งแสวงหา รวมทั้งถ้าไม่ได้ความสุขอย่างเดิมก็จะทำให้เกิดความอ้างว้าง ว้าเหว่ หรือเหง๋าหง๋อย หรือซบเซา เซื่องซึม เบื่อหน่ายขึ้นมาทันที ซึ่งก็จะทำให้มีความหงุดหงิดใจ หรืออารมณ์เสียขึ้นมาได้ง่าย ซึ่งมันเป็นความทุกข์ใจที่ไม่มีใครอยากจะมีและอยากจะหนี

เปรียบเหมือนกับการที่เราวิ่งไล่หาสิ่งที่พอใจและพร้อมกับวิ่งหนีสิ่งที่เกลียดกลัวอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่นการที่เรากินอาหารที่เอร็ดอร่อย เมื่อเราได้ลิ้มรสความอร่อยนั้นด้วยความพึงพอใจแล้วมันก็จะทำให้เรามีความติดใจในรสอาหารนั้น และทำให้อยากจะได้กินอาหารที่อร่อยนั้นอีก หรืออยากกินอาหารชนิดอื่นที่อร่อยอย่างนั้นอีก และถ้าไม่ได้กินอาหารที่อร่อยอีกแต่มาได้กินอาหารที่ไม่อร่อยก็จะทำให้ไม่อยากกินอาหารที่ไม่อร่อยนั้น และพยายามแสวงหาแต่อาหารที่อร่อยมากินอีก ซึ่งแน่นอนว่าก็ทำให้ต้องเสียเงินซื้ออาหารที่อร่อยนั้นมากยิ่งขึ้น และเมื่อเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม หรือเครื่องใช้ต่างๆ หรือยานพาหนะ หรือโทรศัพท์มือถือ เป็นต้นก็ทำให้เกิดความติดใจได้เหมือนกับอาหาร ดังนั้นจึงทำให้ต้องเสียเงินซื้อหาสิ่งที่ติดใจทั้งหลายมากยิ่งขึ้น จนทำให้มีรายจ่ายมากขึ้นและก็กระทบกับการใช้ชีวิตไปอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งการที่คนเรามีหนี้กินกันมากมายก็มาจากเรื่องของความติดใจนี้นี่เอง

การดื่มสุราและสูบบุหรี่ก็ทำให้เกิดความติดได้อย่างมากจนยากที่คนติดแล้วจะเลิกได้เพราะความติดใจหลงใหลในความสุขจากการดื่มและสูบ ถ้าไม่ได้ดื่ม ไม่ได้สูบก็จะรู้สึกทุกข์ทรมานเหมือนกับว่าถ้าไม่ได้ดื่มไม่ได้สูบอีกก็จะไม่มีความสุขอีกตลอดชีวิต ซึ่งยิ่งถ้าเป็นการติดยาเสพติดที่ร้ายแรง เช่นเฮโรอีน ฝิ่น กัญชา หรือยาบ้า ยาอี ยาเค เป็นต้นก็จะยิ่งมีความติดได้มากขึ้นและเลิกได้ยากขึ้นอีก และสร้างปัญหามากขึ้นอีก เช่นอาจจะต้องลักขโมย จี้ปล้น เพื่อให้ได้เงินมาซื้อหาสิ่งเสพติดนั้นอีก จนต้องถูกจับและถูกลงโทษ ซึ่งก็จะทำให้เกิดความทุกข์มหันต์ขึ้นมาได้ เป็นต้น

แม้ในเรื่องคนรัก หรือเพื่อนก็ตาม ถ้าเราอยู่กับใครแล้วมีความสุขเราก็จะเกิดความติดอกติดใจในคนที่เรารักนั้น ยิ่งรักมากก็ยิ่งติดใจมาก ถ้าต้องจากกันไปก็ย่อมที่จะเกิดความเศร้าโศกเสียใจอย่างมากเสมอ บางคนถึงกับฆ่าตัวตายเมื่อจากคนรักจากไปเพราะทนต่อความทุกข์ที่ต้องสูญเสียคนที่เคยให้ความสุขยิ่งนั้นไป ซึ่งนี่คือโทษจากความติดที่มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ

คนที่เคยอยู่สุขสบายแล้วต้องมาอยู่ในสภาพที่ไม่มีความสุขอย่างเก่าก็เหมือนกัน คือเคยได้รับความสุขมาก่อน แต่ต้องมาพลัดพรากจากความสุขนั้น ถึงแม้จะไม่ได้รับความลำบากก็ตาม ก็ยังมีความทุกข์เพราะจิตของเขาย่อมอาลัยอาวรณ์ต่อความสุขที่จากไป และไม่ยินดีในสภาพที่ไม่มีความสุขที่แม้จะยังไม่เป็นทุกข์ก็ตาม ถ้ายิ่งต้องมาทนอยู่ในสภาพที่เป็นทุกข์ก็จะยิ่งทุกข์ทรมานยิ่งขึ้น ซึ่งจะต่างกับคนที่เขาเคยอยู่ในสภาพที่เป็นทุกข์นี้มาจนชินชาแล้วเขาก็จะไม่รู้สึกทุกข์ทรมานเหมือนคนที่ไม่เคยเป็นทุกข์มาก่อน นี่เองที่คนเคยอยู่ในเมืองที่สุขสบายจึงไม่อยากจะมาอยู่บ้านนอกที่ไม่มีความสุขสบาย และคนบ้านนอกที่รู้จักความสุขก็อยากที่จะไปอยู่ในเมือง จนทำให้เกิดความแออัดในเมืองขึ้นอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและสร้างปัญหาต่างๆขึ้นมามากมาย

ส่วนเด็กวัยรุ่นก็ติดเกมส์ ติดเที่ยว ติดแฟน ติดเพื่อน ติดคุย ติดเล่นจนไม่สนใจการเรียน แล้วก็ทำให้การเรียนตกต่ำ มีความรู้น้อย และสอบเข้าทำงานที่ดีๆไม่ได้ แล้วอนาคตก็ตกต่ำ แต่ทั้งๆที่รู้ก็ยังละเลิกสิ่งที่ติดนั้นไม่ได้ เพราะมันมีอำนาจมาก มากเสียจนทุกคนต่างก็ยอมมอบกายถวายชีวิตให้กับความสุขที่ตนเองติดใจนั้นไป ทั้งๆที่รู้ว่ามันจะจูงตนเองไปสู่ความวิบัติก็ตาม นี่คือโทษจากความติดที่เกิดกับเด็กวัยรุ่นทังหลาย

แม้คนที่มีคู่ครองแล้วก็ยังไปติดใจคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ครองของตนเอง จนเกิดปัญหาครอบครัวตามมา ส่วนคนที่ติดอยู่ในยศ ในอำนาจก็กลัวที่จะต้องหมดยศหมดอำนาจ จึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางที่จะรักษายศ รักษาอำนาจของตนเองไว้ แม้บางครั้งจะต้องทำลายคนอื่นก็ตาม รวมทั้งคนที่ร่ำรวยก็ย่อมที่จะพยายามรักษาความร่ำรวยของตนเองไว้ หรือทำให้ตนเองร่ำรวยยิ่งขึ้น แม้จะต้องเบียดเบียนคนอื่น หรือเบียดเบียนป่าไม้ สัตว์ป่า ท้องทะเลก็ตาม นี่คือหายนะที่เกิดจากความติด

ความตายคือการพลัดพรากจากสิ่งที่ติดใจทั้งหลายไปจนหมดสิ้น ซึ่งแน่นอนว่าคนที่จะตายย่อมที่จะมีความทุกข์ทรมานใจเสมอ เพราะยังละวางความยึดติดในตนเองและสิ่งต่างๆที่มีอยู่เอาไว้ไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีใครจะยึดถืออะไรเอาไว้ได้เลยแม้สักนิดเมื่อความตายมาถึง คนที่มีทรัพย์มาก มียศ มีอำนาจมาก และยึดติดในสิ่งเหล่านี้มาก เมื่อจะตายก็ย่อมที่จะมีความทุกข์ทรมานมากด้วยเสมอ ส่วนคนที่ยึดติดน้อยก็จะมีความทุกข์น้อย ส่วนคนที่ไม่ยึดติดเลยก็จะไม่มีความทุกข์เลย

เราจะเอาชนะความติดนี้ได้อย่างไร? มันเป็นเรื่องยากถ้าคนเราขาดปัญญาและจิตที่เข้มแข็ง ซึ่งขั้นแรกก็ต้องพยายามศึกษาเรื่องโทษจากความติดให้มาก เพื่อที่จะได้เกิดความกลัวต่อความติดทั้งหลาย แล้วพยายามละเลิกความติดในสิ่งที่ให้โทษร้ายแรงก่อน เช่น สุรา ยาเสพติด การพนัน การเที่ยวเตร่ หรือสิ่งฟุ่มเฟือยทั้งหลาย เป็นต้น แล้วหันมาติดในสิ่งที่ดีงามแทน เช่น ติดงาน ติดบ้าน ติดสร้างความดี ติดช่วยเหลือสังคม เป็นต้น ซึ่งก็ต้องใช้ความอดทนพอสมควร

ต่อจากนั้นก็ต้องพยายามฝึกฝนจิตให้เข้มแข็งด้วยการหมั่นฝึกสมาธิอยู่เสมอๆ เพื่อให้จิตมีพลังอำนาจที่จะอยู่เหนือความติดทั้งหลาย และถ้าใครสามารถพ้นจากความติดทั้งหลายได้ เขาก็ย่อมที่จะพบกับความสงบสุขในชีวิตได้ ซึ่งการที่เราจะให้คนอื่นมาบังคับให้เราละเลิกสิ่งที่ติดนั้นย่อมจะทำให้เราเกิดความทุกข์อย่างมาก ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่ดีถ้าละเลิกได้ก็ตาม แต่ถ้าเราสามารถละเลิกความติดด้วยตนเองได้ก็ย่อมที่จะมีทุกข์น้อยและมีความภาคภูมิใจที่เราสามารถเอาชนะความติดที่คนอื่นไม่สามารถทำได้.

เตชปญฺโญ ภิกขุ
อาศรมพุทธบุตร เกาะสีชัง ชลบุรี
(ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.whatami.net)
*********************