สุรา มาจากคำว่า สุระ ที่แปลว่า กล้าหาญ คือคนที่ดื่มสุราแล้วจะมีความกล้าหาญกว่าปกติ ซึ่งความกล้าหาญนี้ก็คือความรู้สึกไม่กลัวอะไร แต่ถ้าไม่กลัวในสิ่งที่ควรกลัวก็จัดว่าเป็นความบ้า ซึ่งคนที่ดื่มสุราแล้วจะเป็นคนบ้าเสียมากกว่า เพราะจะไม่กลัวแม้จะทำสิ่งที่ชั่วหรือไม่ดีก็ตาม
สุรานั้นเมื่อดื่มเข้าไปแล้วแอลกอฮอล์ก็จะเข้าไปทำให้สมองมึนชา จึงทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง คือคิดอะไรไม่ค่อยออก จำอะไรไม่ค่อยได้ จึงมักทำอะไรไปตามความรู้สึกที่กำลังเกิดอยู่เฉพาะหน้าโดยขาดความยั้งคิด หรือขาดสติใตร่ตรองว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นจะเกิดผลร้ายตามมาอย่างไรในภายหลัง นี่เองที่ทำให้คนดื่มสุรามักเกิดการทะเลาะวิวาทกันอยู่เสมอเพราะเมื่อดื่มสุราเข้าไปมากๆแล้วจะเกิดความรู้สึกไม่กลัวใคร ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น และยังทำให้เป็นคนหน้าด้านไม่อายใคร ซึ่งแม้การทำร้ายบุคคลที่เคยรักกันมาก่อนก็สามารถทำได้โดยง่าย และแม้การที่มีคนติดโรคเอดส์มากมายก็มีสาเหตุมาจากการดื่มสุรานี้ด้วย
เมื่อแอลกอฮอล์เข้าไปในสมองมากๆ ก็จะทำให้การควบคุมร่างกายผิดปกติ เช่นเดินไม่ตรงทาง การควบคุมมือและเท้าผิดปกติ สายตาก็ทำงานได้ไม่ดี ยิ่งถ้าไปขับขี่ยานพาหนะก็จะทำให้ไม่สามารถควบคุมยานพาหนะได้ดี จึงมักเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งก็นำมาซึ่งความสูญเสียได้มากมายทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น
แอลกอฮอล์นั้นเมื่อเข้าไปสู่สมองมากๆและบ่อยๆก็ย่อมที่จะทำให้เนื้อสมองเกิดความเสียหาย คือมันจะทำลายประสิทธิภาพของเนื้อสมอง ทำให้เกิดความจำไม่ดี และคิดอะไรไม่ค่อยออก รวมทั้งเมื่อตับต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายอยู่บ่อยๆ มันก็ย่อมที่จะเสื่อมประสิทธิภาพลง แล้วมันก็จะทำให้ร่างกายเกิดเจ็บป่วยหรือเกิดโรคต่างๆขึ้นมาได้โดยง่าย
สาเหตุที่ทำให้คนชอบดื่มสุรานั้นก็คือ การติดในความสุข คือเมื่อดื่มสุราเข้าไปแล้วความคิดต่างๆของสมองก็จะลดลง จึงทำให้ลืมเรื่องต่างๆที่เคยทำให้ทุกข์ใจมาก่อนได้ บวกกับการที่สมองมึนชามันจึงทำให้เกิดความรู้สึกเป็นสุขอย่างหนึ่งขึ้นมาด้วย และถ้ายิ่งมีเพื่อนมาร่วมพูดคุยด้วยก็จะยิ่งทำให้เกิดความสุขสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
คนที่เคยทำงานตั้งแต่เช้าจนเย็นและเมื่อเสร็จงานแล้วก็กลับบ้าน เมื่อมืดค่ำก็พักผ่อนนอนหลับได้ตามปกติซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าได้เคยดื่มสุรากับเพื่อนหลังเลิกงานเข้าสักครั้งหรือสองครั้งแล้วก็จะเกิดความติด คือหลังเลิกงานแล้วถ้าไม่ได้ไปดื่มสุรากับเพื่อมันจะรู้สึกเหง๋าและเบื่อหน่ายที่ต้องทนอยู่กับบ้านที่จำเจไม่มีความสุข คือจะเกิดความทุกข์ขึ้นมาแทนถ้าไม่ได้ดื่มสุรา นี่เรียกว่าเป็นการติดสิ่งที่เสพแล้วทำให้ติดเหมือนกับการเสพสิ่งเสพติดทั้งหลายนั่นเอง
การแก้ปัญหาก็ต้องมาเริ่มกันที่การเรียนรู้ถึงโทษภัยจากการดื่มสุราเป็นอันดับแรก เพื่อที่จะเกิดความกลัว ซึ่งก็ต้องทำกันอย่างละเอียดลึกซึ้งจนคนที่ดื่มสุราเกิดความกลัวขึ้นมาจริงๆจึงจะได้ผล ต่อจากนั้นก็ต้องอาศัยความอดทนอย่างมากที่จะละเลิก คือต้องทนต่อความเหง๋าและเบื่อหน่าย รวมทั้งต้องต่อสู้กับความอยากที่จะดื่มสุราที่จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อละเลิกใหม่ๆ ซึ่งนานเข้าความเบื่อหน่ายและเหง๋านี้มันก็จะค่อยๆอ่อนแรงลง ซึ่งก็อาจต้องใช้เวลาหลายวันอยู่บ้าง จนในที่สุดมันก็จะเคยชินเป็นปกติ คือไม่เกิดความเบื่อและเหง๋าอีกต่อไป ซึ่งในขณะที่ละเลิกนี้ก็ต้องหาอะไรที่ดีงามมาทำทดแทน เช่นหางานอดิเรกทำ หรืออ่านหนังสือ หรือทำงานบ้าน หรือฝึกสมาธิ เป็นต้น เพื่อไม่ให้จิตว่างจนเกิดความเหง๋าและหวนไปคิดถึงเรื่องการดื่มสุราอีก ซึ่งก็อาจจะต้องใช้การอธิฐานจิตเพื่อตัดใจอย่างเด็ดขาดจากการดื่มสุราเข้ามาช่วยด้วย
สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือเรื่องเพื่อน คือเราจะต้องเลิกคบเพื่อนที่ดื่มสุรา มิฉะนั้นเราก็จะเลิกดื่มสุราไม่ได้เพราะเมื่อเพื่อนดื่มเราก็ต้องดื่มด้วย ดังนั้นเราก็ต้องเปลี่ยนมาคบเพื่อนที่ดี ที่ไม่ดื่มสุรา และเป็นเพื่อนที่จะนำเราไปสู่ความเจริญได้ เช่นเพื่อนที่ชอบเรียน ชอบทำงาน ชอบศึกษาหาความรู้ ชอบฝึกสมาธิ เป็นต้น
สรุปได้ว่าคนที่ชอบดื่มสุรานั้นจะมีจิตใจที่อ่อนแอ คือติดในความสุขสนุกสนานจากการดื่มสุราและพูดคุยกับเพื่อน จนไม่สามารถที่จะตัดใจจากความสุขสนุกสนานนั้นได้โดยง่าย เมื่อถึงเวลาก็จะเกิดความรู้สึกทรมานใจเพราะความอยากจะไปดื่มสุราอีก เมื่อทนไม่ได้หรือไม่อยากทรมานก็จึงทำให้ไปดื่มสุราอยู่เป็นประจำจนติดมากขึ้นและเลิกได้ยาก หรือบางคนถึงขั้นเลิกไม่ได้จนเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังไปในที่สุด แล้วผลร้ายมากมายจากการติดในความสุขจากการดื่มสุราก็จะต้องตามมาอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง.
|