กินเนื้อเป็นบาปหรือไม่?

มนุษย์ที่หมายถึงสัตว์ประเสริฐนี้จะมีความประเสริฐจริงตามชื่อหรือไม่? เพราะอะไร? คือจิตใจที่ประเสริฐก็ต้องหมายถึงจิตใจที่สูงส่ง ดีงาม ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ไม่เอารัดเอาเปรียบหรือเบียดเบียนชีวิตและทรัพย์สินผู้อื่น ซึ่งเมื่อเรามาพิจารณาดูถึงความจริงแล้ว สัตว์ที่จะเป็นมนุษย์จริงๆนั้นแทบไม่มี จะมีก็แต่ “คน”ที่หมายถึงสัตว์ชนิดหนึ่งของโลกที่มีความโลภ โกรธ หลง และชอบเอารัดเอาเปรียบ เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายของโลกที่เราเห็นๆกันอยู่เลย

ลองคิดดูง่ายๆจากอาหารที่เรากินกันอยู่ทุกวี่วัน ที่มีส่วนประกอบจากเนื้อสัตว์มากมาย และเราก็นิยมชมชอบกันว่าเนื้อสัตว์นั้นอร่อยอย่างยิ่ง โดยไม่ได้คิดสักนิดเลยว่านั่นคือเนื้อของสัตว์ที่เคยมีชีวิตเหมือนเรามาก่อน และก็มีคนนำเอาชีวิตของเขามาฆ่าเพื่อเอาเนื้อของสัตว์นั้นมาให้เรากิน ซึ่งเมื่อสัตว์ถูกฆ่าไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม สัตว์นั้นย่อมเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสก่อนจะตาย เราลองคิดดูว่าเมื่อสัตว์ทุกข์ทรมานมันจะยินดีหรือจะว่าโกรธและสาปแช่งคนที่มีส่วนมาทำให้มันเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ?

แน่นอนว่าสัตว์มันคงโกรธแต่ก็คงคิดสาปแช่งใครไม่เป็น แต่ถึงไม่สาปแช่ง ผู้ที่มีส่วนทำให้มันเจ็บปวดและตายก็ต้องรับผลบาปจากการที่สัตว์นั้นถูกฆ่าอยู่แล้วอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ซึ่งเราอาจจะคิดว่าเราไม่ได้เป็นคนฆ่าเราก็ไม่ต้องได้รับผลบาป แต่ความจริงแล้วเราก็เป็นคนที่มีส่วนทำให้สัตว์ถูกฆ่าด้วยเหมือนกัน เพราะเมื่อเรากินเนื้อสัตว์ ก็ย่อมส่งผลทำให้สัตว์ต้องถูกฆ่ามากขึ้น ถ้าเราไม่กินเนื้อสัตว์ ก็จะไม่ทำให้สัตว์ต้องถูกฆ่ามากขึ้น

บาปหรือผลจากการกินเนื้อสัตว์เป็นอย่างไร? คือมันมีผลโดยอ้อมที่เข้าใจยากอยู่สักหน่อย คือเริ่มจากชีวิตต้องเหนื่อยยากมากขึ้นเพราะต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้ทรัพย์มาซื้อหาเนื้อสัตว์กิน บางทีก็ต้องประกอบอาชีพทุจริต หรือผิดกฎหมาย และถูกลงโทษได้ การที่ชีวิตต้องดิ้นรนแสวงหา ต้องแก่งแย่งกระทบกระทั่ง เคร่งเครียด หรือเดือดร้อนเป็นทุกข์กันอยู่ทุกวันนี้ก็มีสาเหตุมาจากความลุ่มหลงในการกินเนื้อสัตว์นี้ด้วย ถ้าเราเป็นคนกินง่าย ประหยัด ไม่ลุ่มหลงในรสอาหารจากเนื้อสัตว์ เราก็ไม่ต้องดิ้นรนให้ทุกข์ยากอย่างที่เป็นกันอยู่นี้

ตามธรรมชาติของจิตเรานี้เมื่อได้รับสิ่งที่น่าพึงพอใจบ่อยๆเข้าก็จะติดใจและจะส่งผลให้มีความโกรธ เกลียด กลัว หรือไม่พอใจเมื่อได้พบกับสิ่งที่ตรงข้ามคือไม่น่าพอใจบ้าง อย่างเช่นคนที่ติดใจในรสอาหารจากเนื้อสัตว์ เมื่อไม่ได้กินอาหารอร่อยๆเหมือนเดิมอีกก็จะเดือดร้อนเป็นทุกข์ หรือถ้าติดมากๆก็จะมีความไม่พอใจหรือโกรธขึ้นมาทันที ซึ่งความโกรธนี้เมื่อสั่งสมไว้มากๆเข้าก็จะทำให้เป็นคนมีนิสัยโกรธง่าย หงุดหงิดง่าย ซึ่งก็แน่นอนว่าคนเวลาโกรธย่อมเป็นคนมืดบอด แล้วก็มักจะทำอะไรๆไปด้วยความโง่หรือมืดบอด อันจะนำพาไปสู่การทำร้ายผู้อื่นหรือทำความผิดอื่นๆจนเกิดผลร้ายกลับมาสู่ตนเองได้ภายหลัง เป็นต้น ซึ่งนี่คือผลของบาปจากการกิเนื้อสัตว์ที่เราอาจคิดไม่ถึง

เมื่อเรากำลังกินเนื้อสัตว์อยู่ด้วยความลุ่มหลงในความเอร็ดอร่อยอยู่นั้น เราเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าเรากำลังมีส่วนในการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ ทำให้สัตว์ต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ความเอร็ดอร่อยของเราต้องแลกมาด้วยความทุกข์ทรมานของสัตว์ที่เรากินเนื้อเขา ถ้าเปลี่ยนมาให้เราถูกจับไปฆ่าเพื่อเอาเลือดเอาเนื้อไปให้เป็นอาหารของสัตว์บ้างเราจะรู้สึกอย่างไร?

เรากินเลือด กินเนื้อของเขา แต่เขาต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ถ้าเรายินดีพอใจในรสอาหารนั้นก็เท่ากับว่าเราไม่มีจิตสำนึกของมนุษย์เลย แต่กลับมีจิตสำนึกเหมือนสัตว์ป่าพวกเสือพวกสุนัขป่าที่กินเนื้อสัตว์อื่นเป็นอาหาร ซึ่งมันกินไปเพราะสัญชาติญาณในการกินอาหาร ถ้าไม่กินมันก็ตาย มันไม่ได้กินเพราะนิยมความเอร็ดอร่อยเหมือนคนเรา แต่เรามีสามารถเลือกได้ว่าจะกินเนื้อสัตว์หรือไม่กลับกินเพราะความเอร็ดอร่อย อย่างนี้จะว่าคนเลวกว่าสัตว์ได้หรือไม่? แล้วความเมตตาของคนเราอยู่ที่ไหน? คนที่เมตตาสัตว์ย่อมไม่ทำให้สัตว์ชนิดใดต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าคนเรานี้ใจร้ายหรือโหดเหี้ยมอย่างยิ่งได้หรือไม่? ซึ่งคนที่โหดร้ายนั้น อาจจะมีร่างกายสวยงามแต่งตัวดีและมีเกียรติก็ได้ เมื่อเขาโหดร้ายไร้เมตตาเช่นนี้แล้ว ก็เป็นการง่ายที่เขาจะเบียนเบียนชีวิตและทรัพย์สินคนโง่ด้วยกัน อย่างที่กำลังเป็นอยู่ในสังคมของเราปัจจุบันจนทำให้สังคมเดือดร้อนอยู่ทุกวันนี้

แม้คนที่ชื่นชอบในร่างกายของเพศตรงข้ามที่ว่าสวย ว่างาม และรักใคร่ พอใจอย่างยิ่ง ชนิดที่มีความกำหนัดใคร่ในเรื่องทางเพศจนทำให้มีการสมสู่กันจนเกิดลูกหลานขึ้นมามากมายนี้ก็เหมือนกัน เราชื่นชอบในร่างกายที่เปล่งปลั่งสวยงามที่เกิดมาจากการกินอาหารพวกเนื้อสัตว์ ร่างกายที่แลกมาด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของสัตว์จำนวนมาก เมื่อเราชื่นชอบร่างกายนั้นก็เท่าว่ากับเราพอใจที่จะให้เจ้าของร่างกายนั้นไปทำให้สัตว์ต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ซึ่งก็เท่ากับว่าเรามีส่วนสนับสนุนให้สัตว์ต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานกับเขาด้วยโดยอ้อม และเมื่อเราสมสู่กับร่างกายนั้นก็เท่ากับว่าเราร่วมรับเอาบาปจากเขามาไว้ที่เราด้วย ซึ่งบาปนั้นก็คือเราต้องมีทุกข์ต้องเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสในอนาคต คือจากความแก่ ความเจ็บ ความตาย และความพลัดพราก ทั้งจากของตนเองและคนที่เรารักด้วย

อาหารเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องกิน ถ้าไม่กินก็จะเป็นทุกข์และต้องตาย แต่เราไม่จำเป็นต้องกินอาหารที่เลอเลิศก็ได้ เรากินเพื่อให้ร่างกายคงอยู่ เพื่อให้มีชีวิตอยู่เท่านั้น ซึ่งถ้ากินอย่างนี้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องกินมาก หรือไม่ต้องกินอาหารพวกเนื้อสัตว์ใดๆเลยก็ยังได้ หรือกินเพียงเล็กน้อยก็ได้ ซึ่งก็ทำให้ไม่ต้องไปเบียดเบียนชีวิตสัตว์ ไม่ต้องเป็นบาปโดยอ้อม และไม่ต้องรับผลบาปโดยอ้อมด้วย และเมื่อเราทำได้ดังนี้ก็ทำให้เราเรียกตัวเองว่าเป็น “มนุษย์”ที่หมายถึงสัตว์ที่ประเสริฐได้อย่างเต็มปาก เพราะเรามีเมตตาต่อสัตว์ทั้งหลาย ไม่ทำให้สัตว์ทั้งหลายต้องเป็นทุกข์เพราะเรา เมื่อเรามีใจประเสริฐ ความประเสริฐนี้ก็จะเป็นพื้นฐานทำให้เราเกิดปัญญา อันจะนำไปสู่ความพ้นจากความทุกข์อย่างแสนสาหัสของชีวิตได้ในอนาคตได้.

เตชปญฺโญ ภิกขุ
อาศรมพุทธบุตร เกาะสีชัง ชลบุรี
(ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.whatami.net)
*********************